ศึกมวยดีวิถีไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา คู่เอกขึ้นชก ยอดกฤษดา ยุทธชลบุรี (แดง) ปะทะกับ คมเกียรติ เพชร ปตอ. (น้ำเงิน) ในพิกัดชก 124 ปอนด์ เรตเปิดคมเกียรติต่อ 10-9 กรรการผู้ห้ามบนเวที พิจิตต์ พรหมคง ยกแรก ยอดกฤษดา ที่พกความแค้นมาอย่างเต็มอก เดินใส่ไม่ยั้งต้อนเตะขาหวดพับนอกต่อยหมัดไม่มีการดูเชิงใดๆเรียกได้ว่าสู้ด้วยพลังแค้นก็ว่าได้ คมเกียรติได้ได้ระยะก็ถอยดักสาดแข้งขวาแย็บต่อยหมัดวนรอบเวทีไม่ยอมเป็นเป้านิ่ง ทำให้เกมก็ยังไม่สนุกดุเดือดอะไร หมดยกแรก คมเกียรติต่อไป 5-4
ยกสอง คมเกียรติยังคงเน้นตั้งรับ ยอดกฤษดายังเดินหน้าใส่แต่ก็ยังเข้าไม่ถึงตัวต้องฝ่าดงแข้งเตะเจาะยาง เป็นทางฝ่ายคมเกียรติที่มีการเลือกชิงวางแข้งถีบป้องกันตัวเอาไว้ก่อน ยอดกฤษดายังคงชวนทะเลาะท้าชนไม่มีถอยเดินหน้าใส่อย่างเดียว คมเกียรติที่ยังเป็นฝ่ายถอยหนีดักเตะเสียบเข่าแต่ก็คุมเกมซะส่วนใหญ่ ไม่เร่งเดินเครื่องมาก หมดยก คมเกียรติเป็นฝ่ายต่อ 5-4 ยกสาม ยอดกฤษดายังไม่มีเกียร์ที่จะถอยหลัง เดินสาดปล้ำตามไปไล่แขนขวางแทงได้หนักหน่วงอยู่เหมือกัน คมเกียรติไม่เคยกลัวใช้ความใหญ่เข้าสู้ปักหลักขวางดันแทงโต้กลับได้สนุกเกมได้เปิดทันที ต่างฝ่ายต่างก็มาเล่นวงในวัดพลังกันอย่างสุดแรงเกิด เป็นยอดกฤษดาส่วนใหญ่ที่มีไล่แขนสับศอก ก่อนที่จะหาช่องเกี่ยวหาเตะตัดล่างทุ่มจนคมเกียรติล้มเสียท่าไปเลย หมดยกราคา ยันเสมอคมเกียรติ
ในยกที่สี่ คมเกียรติได้เปลี่ยนการเดินเกมมาลงทุนเกาะในเสียบเข่าหวังที่จะเอาความใหญ่บดเบียด ยอดกฤษดาก็ไม่สน ดันสาดแข้งเสียบด้วยเข่าไล่แขนโต้กลับได้อย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดพักให้มีช่องว่างอะไรใดๆ ทรงมวยแข็งแรงกว่า ถึงแม้ว่าจะเสียเปรียบเรื่องรูปร่างก็ตาม ทำให้คมเกียรติที่ชิงสาดแข้งเสียบเข่ากำลังที่จะได้ลุ้น แต่ก็ทำๆหายๆ ไม่ติดต่อกัน ทำให้จังหวะสุดท้ายโดนเหลี่ยมของยอดกฤษดาจับคุมได้อย่างสบาย หมดยกยอดกฤษดาไหลต่อไป 5-1 ยกสุดท้าย คมเกียรติยิ่งพยายามเดินฮึดต่อยหมัดฟันศอกเร่งเครื่องอย่างเต็มสูบเพราะรู้ตัวว่าเป็นรอง แต่ก็เหมือนยิ่งเดินก็ยิ่งแย่ดักเข้าไปโดนศอกของยอดกฤษดา ที่ดักฟันเข้าที่คิวด้านซ้ายถึงกับเลือดไหลเป็นทางเต็มเวทีกันเลยทีเดียว แต่ยังไม่ยอมถอย ก่อนที่จะแข็งใจสาวหมัดสับศอกเข้าไปที่คิวขวาของยอดกฤษดาจนแตกเหมือนกัน แต่ก้ยังไม่หมด ก่อนงัดความเก๋าต้อนถีบสาดแข้งคุมเกมไว้ ครบยกไม่มีปัญหาอะไร กรรมการได้รวมคะแนนแล้วหันไปชูมือให้ทางด้านยอดกฤษดา ที่คว้าชัยชนะล้างตาได้อย่างสำเร็จ 49-48 คะแนน ทั้งสามเสียงจาก อัษฎาวุธ พิลาวัลย์, ฉัตรชัย สอนทา และ วรวิทย์ เชื้อสุวรรณ
